คำแนะนำก่อนฝึกกระโดด
การกระโดดนั้นเป็นสิ่งที่เราทำในชีวิตประจำวันเมื่อเราต้องการจะจับของจากที่สูงโดยไม่พึ่งตัวช่วยในการไปจับของที่สูงด้วยตัวเอง กีฬาเกือบทุกประเภทจะใช้การกระโดดเป็นส่วนมากเพราะการกระโดดไม่ใช่เพียงจะ "กระโดดให้สูง" เพียงอย่างเดียว ยังมี "การกระโดดไกล" "กระโดดไปด้านข้าง" "กระโดดไปด้านหลัง" "กระโดดกลับตัว" "กระโดตีลังกา" อีกมากมายที่ใช้การกระโดด
ใน กีฬาบาสเกตบอล กระโดดถือว่าเป็นสิ่งสำคัญมากเพราะจะทำให้ได้เปรียบในการเล่นเช่น การกระโดดรีบาวน์ การเลย์อัพ การดั้ง แม้แต่การชู้ตด้วยก็ตาม ดังนั้นควรให้ความสำคัญในระดับหนึ่ง แต่ไม่ควรให้ความสำคัญมากเกินไป แต่หากต้องการที่จะฝึกก็ต้องให้ความสำคัญอย่างมาก และควรฝึกทักษะอื่นๆเพื่อความสามารถในการเล่นบาสเกตบอลไปด้วยพร้อมๆกัน
ในเริ่มต้นการฝึกนั้นหากไม่ได้มีพื้นฐานช่วงล่าง(ขา)ที่ดีผมขอแนะนำการฝึกให้ตามลำดับ
1.Squat training การฝึกลุกนั่ง2.Air Alert (โปรแกรมการกระโดดยอดนิยมสมัยก่อน ซึ่งตอนนี้ไม่ค่อยมีคนแนะนำเท่าไร เพราะเกิดปัญหาเรื่องการบาดเจ็บหัวเข่าและที่หลัง แต่เพราะคนส่วนมากไม่เข้าใจว่า ฝึกให้ถูกต้องเป็นอย่างไร จึงทำให้เกิดอาการบาดเจ็บดังกล่าว)
3.Weight Training
4.Plyometrics.
ในการฝึกนั้นควรจะแบ่งเวลาเป็น 3 วัน เช่น จันทร์,พุทธ,ศุกร์ และ อังคาร,พุทธ,พฤหัสบดี
การฝึกที่หนึ่งควรแบ่งการฝึกในระยะเวลาเพียง 2 เดือน เพื่อปรับสภาพร่างกายให้เข้าสู่สภาพ
การฝึกที่สอง และก่อนการฝึกที่สองให้ฝึก แบบฝึกร่างกายก่อนAA เป็นระยะเวลา 1 เดือน และพัก 1 สัปดาห์ ก่อนเข้าการฝึกที่สอง เมื่อการฝึกที่สองเสร็จแล้ว ให้พักเป็นเวลา 1-2 เดือน และเริ่มเข้าการฝึกที่ สาม และ สี่
ส่วนในการฝึกที่สามและสี่ เป็นแบบฝึกที่เรียกว่ามีหลายระดับ และเป็นหลักสูตรที่ยั่งยืน ใช้ระยะเวลาที่นานมาก ให้ผลลัพธ์ที่สูง มีประสิทธิภาพ แต่ต้องใช้ความรู้และทักษะมากมายในการฝึก
และต้องมีการแบ่งการฝึกเป็นระดับการฝึกชัดเจน มีดังนี้
1.ระดับเบา หรือระดับเริ่มต้น
2.ระดับปานกลาง หรือระดับทั่วไป
3.ระดับหนัก หรือระดับผู้เชี่ยวชาญ
การฝึกที่สามและสี่ ควรสอบถามเทนเนอร์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนทำฝึกข้างต้นนี้
และจะมาบอกเกี่ยวกับการฝึกที่สามและสี่ ในคำแนะนำก่อนฝึกกระโดด(เพิ่มเติม)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น